DIVINITY

" กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว... ณ อาณาจักรควาซีอาแกลร์ (Quazea'lglair)

เป็นที่พำนักของชาวเอลฟ์ผู้มีวิทยาการและอำนาจเวทย์มนตร์อันยอดเยี่ยม
ในเวลานั้น เจ้าชายผู้มีพระพักทร์งดงามราวเทพบุตร และไม่มีพระอนุชาอื่นใด ได้ออกเดินทางไปท่องโลกเพื่อหาประสบการณ์มาใช้ปกครองอาณาจักรสืบต่อจากองค์กษัติรย์
เจ้าชายและคณะได้เดินทางไปยังเมืองอันห่างไกลแห่งหนึ่ง ซึ่งถูกรุกรานโดยมังกรไฟ
ด้วยพระปรีชาสามารถ ทรงปราบมังกรได้สำเร็จ ผู้คนในเมืองต่างสรรเสริญนามของเจ้าชาย

' อันตัวข้ามิมีสิ่งใดควรค่าพอจะตอบแทนเจ้าชาย '
เจ้าเมืองเอ่ยวาจานอบน้อม
' มีเพียงแต่นาง.. '

สาวรับใช้พาตัวเด็กสาวนางหนึ่งออกมาแสดงตัว ความงามเสมือนนางฟ้าจากสวรรค์ทำให้เจ้าชายตกหลุมรักในทันที
นางนั้นมีเกศาสีฟ้าสดราวขนนกไนติงเกลแรกรุ่น ผิวขาวซีดแต่ก็มีเลือดฝาดแลดูน่าทะนุทนอม ดวงตากลมโตของนางก็เป็นสีทองเปล่งประกายราวทองคำศักดิ์สิทธิ์ มีเสียงอันไพเราะกังวาลเสมือนระฆังแก้ว

เจ้าเมืองมอบนางให้แก่เจ้าชาย และเขาได้กระซิบบอกเรื่องสาสน์จากสวรรค์ที่เทพเจ้านำมาเมื่อนางเกิด

' นามของนางคือ Divinity ดาบของพระเจ้าที่ลงมาจุติเป็นมนุษย์ '

เจ้าชายพาตัวนางกลับไปยังอาณาจักรของตน ลุ่มหลงในความงามและความเลอค่าของนาง
นางมิเคยรับรักจากเจ้าชายหรือชายหนุ่มอื่นใด

ปีแล้วปีเล่า เจ้าชายเอลฟ์ได้ขึ้นครองบัลลังห์ เป็นกษัติรย์แห่งควาซีอาแกลร์
ปีแล้วปีเล่า พระองค์นั้นทรงพยายามทุกวิถีทางให้นางกลายเป็นดาบ
แต่ก็ไม่เป็นผล

เมื่อพระองค์ทรงทราบว่าเวลาที่จะต้องเสด็จไปยังนครคนตายใกล้เข้ามา
ทรงรับสั่งให้สร้างวิหารแห่ง Divinity ให้งดงามตระการตา ที่ที่นางผู้นั้นจะต้องถูกจองจำไปตลอดกาล
ด้วยอำนาจแห่งกษัติรย์ พระองค์ทรงสาป Divinity

' หากแม้นเจ้ามิกลายเป็นดาบ เจ้าจะทุกข์ทนอยู่ใต้สังขารนี้ชั่วกัปล์ หากแม้นเจ้ากลายเป็นดาบ เจ้าจะถูกโอบกอดโดยเทพแห่งอิสรภาพ '

และยังทรงสร้างเอลฟ์อีกสองตนขึ้นมาจากเวทมนตร์ พระองค์ทรงสาปมิให้ทั้งสองนี้มีอายุขัย เพื่อที่จะปกป้องวิหารได้ตลอดไป นามนั้นคือ Divinita' ผู้มาก่อน และ Divinito ผู้มาทีหลัง พวกเขามิสามารถหนีไปจากที่แห่งนี้ได้ จนกว่า Divinity จะกลายเป็นดาบ

วันเวลาล่วงเลยไปหลายยุคสมัย อาณาจักรควาซีอาแกลร์ได้ล่มสลายไปหลายหมื่นปีแล้ว วิหารแห่ง Divinity
ยังคงตั้งตระหง่านอยู่ แม้นสภาพจะทรุดโทรมไปตามกาล แต่กายของผู้ที่ถูกขังนั้นมิได้เสื่อมถอยเลยแม้แต่วินาทีเดียว...."

- ซิจิล กวีแห่งบริซาที่ II -